จะไปบอลโลก ต้อง “ วันทัช ” / กษิติ กมลนาวิน

6/3/13
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 20 กรกฎาคม 2554

ขณะที่ผมกำลังเขียนบทความนี้ ผมอยู่ที่กรุงลอนเดิ้น ประเทศอังกฤษ และผลการแข่งขันฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลกปรากฏออกมาแล้ว ในที่สุด ญี่ปุ่น ก็สามารถคว้าแชมป์โลกไปครองได้สำเร็จ นับว่าเป็นของขวัญปลอบใจอย่างยอดเยี่ยมจริงๆ หลังจากที่ต้องประสบเคราะห์กรรมกับภัยธรรมชาติครั้งยิ่งใหญ่เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ซึ่งแม้ว่าชัยชนะของทีมชาติญี่ปุ่นครั้งนี้จะเกิดจากปัจจัยหลายอย่างรวมๆกัน แต่อย่างน้อยก็เป็นเครื่องพิสูจน์ว่า คนเอเชียตัวเล็กๆนั้น หากมีวินัย ความเพียรพยายาม มุ่งคิดพัฒนา ปรับเปลี่ยนวิธีการเล่นอย่างเหมาะสม ก็สามารถไล่ตามทัน และสู้ได้กับทุกชาติในโลก

หันมาดูฟุตบอลทีมชายของไทยซึ่งกำลังจะลงแข่งขัน ฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก กับ ปาเลสตายน์ ในวันที่ 23 กรกฎาคมนี้ ที่ นิว อาย โมเบิล สเตเดี้ยม จังหวัดบุรีรัมย์ หลังจาก วินฝรีด เช๊ฟเฟ่อ โค้ชทีมชาติไทยชาวเจอรมานีได้คุมทีมลงซ้อมสักพัก เขาก็ค้นพบข้อบกพร่องของทีมชาติไทยแล้ว คือจุดอ่อนอยู่ที่การเล่นชักช้า การเข้าทำช้า อันนี้ใครๆคงไปตีความว่า นักเตะไทยบ้าเลี้ยง ไม่ยอมปล่อยบอลให้เพื่อนด้วยความรวดเร็ว

แต่สำหรับผมกลับมองปัญหานี้แตกต่างกัน ผมอยากจะบอกว่า นักเตะไทยไม่ได้บ้าเลี้ยงหรอกครับ เพียงแต่ไม่ได้คิดก่อน ไม่ได้วางแผนก่อน เอาไว้บอลมาถึงตัวก็จับบอล แล้วค่อยเงยหน้ามองหาเพื่อนว่าจะส่งให้ใครดี ซึ่งผมอยากจะหยิบยกคำแนะนำของ

อัลโด้ ปลาตีนี่ คุณพ่อของ มีเชล ปลาตีนี่ อดีตสุดยอดตำนานนักเตะชาวฝรั่งเศส

มาเรียนท่านผู้อ่าน อัลโด้ สอนเคล็ดให้ลูกชายว่า

“ เอ็งต้องรู้ก่อนนะว่า จะส่งให้ใคร ก่อนที่เอ็งจะได้รับบอล ”

วินฝรีด คิดแก้จุดบกพร่องของนักเตะทีมชาติไทยด้วยการเน้นการเล่นจังหวะเดียว ที่เรียกว่า วันทัช ( one touch ) ซึ่งก่อนหน้านี้ผมเคยตั้งใจและรณรงค์ให้เปลี่ยนแปลงระบบการเล่นของทีมชาติไทยมาเป็นระบบนี้ ความจริง ระบบวันทัช มันหมายถึงการผ่านบอลหรือยิงประตูโดยใช้จังหวะเดียว ไม่ต้องจับบอลไว้กับเท้า หรือมัวแต่เลี้ยง บอลมาอย่างไรก็ตาม แปะหรือแปให้เพื่อนทันที และถ้าอยู่ในระยะทำประตูก็ซัดได้เลย ไม่ต้องแต่งตัวให้เสียเวลา อย่างไรก็ตาม บางครั้งจำต้องใช้สัก 2 จังหวะก็ไม่ว่ากันครับ เอาเป็นว่ามันเป็นระบบที่ต้องอาศัยการประสานงาน เล่นกันเป็นทีมมากกว่าการโชว์ลวดลายซะคนเดียว ยิ่งเล่นระบบนี้มากเท่าใด ทักษะในการส่งบอลก็จะยิ่งแม่นยำมากขึ้น

ความสำเร็จของการเล่น ระบบวันทัช จะเกิดขึ้นได้นั้นต้องมีกองกลางที่มีทักษะสูงและกองหน้าที่รู้ใจ เข้าขากันเป็นอย่างดี บางครั้งกองหน้าตัวเป้าเป็นตัวดึงกองหลังของทีมคู่แข่งให้ตามมา แต่เมื่อบอลมาถึงตน เพียงแต่แปะต่อให้เพื่อนด้วยความแม่นยำ

ทีมชั้นนำระดับโลกนิยมใช้วิธีเช่นนี้ทำให้ถูกแย่งบอลยาก คู่ต่อสู้หาบอลไม่เจอ เมื่อถึงเกมรุกกองหลังคู่แข่งปั่นป่วนแน่นอน ระบบนี้จะช่วยให้กองกลางตัวรุกมีพื้นที่และเวลาเพียงพอที่จะวางบอลงามๆได้มากกว่าด้วย นอกจากนั้น เขายังบอกว่าตอนรุกสวนกลับเร็วถ้ามีกองกลางที่สายตาแหลมคมยิ่งจะได้ผลดีที่สุด

แฟนบอลชาวไทยเฝ้ารอความสำเร็จของทีมชาติไทยมาเกือบครึ่งศตวรรษแล้ว เรายังไม่เคยได้สิทธิ์ผ่านเข้าไปเล่น ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย สักที ยุคนี้เป็นยุคที่นักเตะไทยแต่ละคนพัฒนาทักษะเพิ่มมากขึ้น และมีโอกาสคืบคลานเข้าไปใกล้ความจริงมากที่สุดอีกหนหนึ่ง ผมว่า เราไม่ต้องรอถึงปี 2018 อย่างที่ว่าที่ นายกปู บอกหรอกครับ ฟุตบอลโลก หนหน้าที่ประเทศบราซิวนี่แหละ ทีมชาติไทยมีศักยภาพที่จะผ่านการคัดเลือกเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายไม่น้อยกว่า เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น เพียงแต่เราต้องยอมเปลี่ยนแปลง เลิกใช้ระบบการเล่นแบบเก่าๆเสียที และหันมาเน้น วันทัช และที่สำคัญ ต้องฝึกตนเองให้รู้ก่อนว่า จะส่งให้ใคร ก่อนที่จะได้รับบอล

ที่มา : http://www.manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsID=9540000088915

No comments:

Post a Comment